เริ่มต้นเขียน แอพพลิเคชั่น Android ต้องทำอย่างไรบ้าง [Lesson 1]
ปัจจุบันสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์พกพาอื่นๆ เริ่มมีบทบาทกับชีวิตเรามากขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่นระบบปฏิบัติการ Android ได้มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และ "แอพพลิเคชั่น" เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่กำลังเติบโต และเป็นที่น่าสนใจมากๆ โดยตอนนี้มีแอพพลิเคชั่นมากมายนับไม่ถ้วนบน Play Store และเชื่อว่านักเรียน นักศึกษา หลายคนหันมาเริ่มอยากเป็นนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นกันบ้างแล้ว วันนี้ไทยแวร์เลยมาสอน วิธีเขียนแอพพลิเคชั่น แอนดรอยด์ (Android) เบื้องต้น .. โดยในบทนี้ ผมจะบอกขั้นตอนในการเตรียมพร้อม เริ่มเขียนแอพ Android กันครับ !
ก่อนอื่นเราต้องดาวน์โหลดโปรแกรมที่จำเป็นต้องติดตั้ง ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 : ดาวน์โหลด และติดตั้ง Java Development Kit (JDK)
1. เข้าไปดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ Oracle ได้เลยครับ และเลือกดาวน์โหลด "Java Platform (JDK) 7u17"
2. หลังจากนั้นให้เลือก "ยอมรับเงื่อนไข" และเลือกดาวน์โหลดให้ตรงกับระบบปฏิบัตืการ ที่คอมพิวเตอร์ใช้อยู่ เช่น ผมดาวน์โหลด Windows x64 เพราะผมใช้ Windows 7 64 bit นั่นเอง
3. เมื่อดาวน์โหลดเสร็จก็ติดตั้งปกติ เหมือนติดตั้งโปรแกรมทั่วไปเลยครับ
ขั้นตอนที่ 2 : ดาวน์โหลด และติดตั้ง Eclipse IDE
1. ดาวน์โหลด Eclipse IDE ได้โดย คลิกที่นี่ และเลือกดาวน์โหลด "Eclipse Classic" ส่วนจะ 32 bit หรือ 64 bit นั้นก็ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการที่คุณได้ลงไว้
ข้อสังเกต : จะเห็นว่า Eclipse นั้นมีหลากหลายเวอร์ชั่นให้เลือกกัน ซึ่งข้อแตกต่างในแต่ละเวอร์ชั่นนั้น ถ้าเราเป็นโปรแกรมเมอร์บ้านๆ เช่นผม คงไม่รู้สึกว่ามันแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เพราะฉะนั้นอย่าไปสนใจเลยครับ จากประสบการณ์ของผม แนะนำให้ใช้ Eclipse Classic นะครับ
2. หลังจากที่ดาวน์โหลดเสร็จเรียบร้อย ก็จะได้ไฟล์ .ZIP มา ให้เราแตกไฟล์ออกมาไว้ที่ไหนก็ได้ตามใจคุณ เช่น ผมแตกไฟล์ไว้ที่ D:\Eclipse
ขั้นตอนที่ 3 : ดาวน์โหลด และติดตั้ง Android SDK
1. ดาวน์โหลด Android SDK และติดตั้งตามปกติ
2. เมื่อติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ ให้เปิด Android SDK Manager (Start > Android SDK Tools > SDK Manager) เราจะพบกับลิสต์ API ยาวเป็นหางว่าว ให้เราเลือกดาวน์โหลดเวอร์ชั่นที่เราต้องการจะพัฒนา ในตัวอย่างนี้ผมเลือกดาวน์โหลด Android 4.2.2 (API 17), Android 4.0.3 (API 15), Android 2.3.3 (API 10), Tools และ Extras .. หลังจากคลิก Install Packages จะมีป็อปอัพเด้งขึ้นมาให้เลือก "Accept All"
ข้อสังเกต : เหตุผลที่ผมเลือกดาวน์โหลด API หลายตัว เพราะเวลาเราพัฒนาแอพพลิเคชั่นไปเรื่อยๆ จะเจอ Errors หรือปัญหาอื่นๆ ที่เกิดขึ้นเพราะเราไม่ได้โหลด API นั้นๆ มา เพราะฉะนั้นผมจึงดาวน์โหลด API ที่จำเป็นติดไว้นั่นเองครับ
ขั้นตอนที่ 4 : ติดตั้ง Plugin เสริมใน Eclipse
1. เปิดโปรแกรม Eclipse ขึ้นมาก่อนเลยครับ หลังจากนั้นไปที่ Help > Install New Hardware
2. คลิกที่ Add และใส่ "ADT Plugin" ในช่อง Name ส่วนช่อง Location ให้ใส่ "https://dl-ssl.google.com/android/eclipse/"
3. หลังจากนั้นเลือก "Developer Tools" แล้วคลิก Next ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะติดตั้งสำเร็จ
4. เมื่อติดตั้งเสร็จ โปรแกรม Eclipse ก็จะถามขึ้นมาว่าต้องการรีสตาทเครื่องไหม แนะนำให้รีสตาท หลังจากนี้เราจะสังเกตไอคอน Android สองตัวเล็กๆ นั่นคือ "Android SDK Manager" และ "Android Virual Device Manager"
ขั้นตอนที่ 5 : ติดตั้ง และตั้งค่า Emulator
1. เลือกไอคอน "Android Virtual Device Manager" และคลิกที่ "New"
2. ให้เราตั้งชื่อ AVD และตั้งค่าของ Emulator ที่เราต้องการ หรือว่าจะตั้งตามผมตามรูปด้านล่างก็ได้เหมือนกันครับ
3. เสร็จเรียบร้อย คราวนี้เราลองเทส Emulator ที่เราเพิ่งสร้างขึ้นมา โดยเลือก "AVDJellyBean" และคลิก "Start"
4. เพียงเท่านี้ เราก็สามารถรัน Emulator โทรศัพท์ Android ได้แล้ว ! ลองเล่นดู แล้วจะรู้ว่าใช้งานได้เหมือนโทรศัพท์จริงๆ เลยครับ
จบแล้ว สำหรับบทเรียนแรก "เริ่มต้นเขียน แอพพลิเคชั่น Android ต้องทำอย่างไรบ้าง" ในบทต่อไป ผมจะสอนเขียนแอพพลิเคชั่นด้วย Java แบบง่ายๆ กันครับ รับรองว่า Android นั้นเขียนสนุก และไม่ยากอย่างที่คุณคิดเลย !
ปล. รีวิวนี้เขียนมาจากประสบการณ์ของผมโดยล้วนๆ ถ้าผิดพลาดประการใด แนะนำเข้ามาได้เลยครับ
อัพเดต ! บทเรียนที่ 2 มาแล้วนะ - [Lesson 2] สร้าง Project เขียน App Android และรันแอพผ่าน Emulator
ก่อนอื่นเราต้องดาวน์โหลดโปรแกรมที่จำเป็นต้องติดตั้ง ดังนี้
- Java Development Kit (JDK) : โปรแกรม Eclipse จำเป็นต้องมี เพื่อเอาไว้รัน Java
- Eclipse IDE : โปรแกรมหลัก เป็นเครื่องมือที่เราจะเอาไว้เขียนโค้ดนั่นเอง
- Android SDK : พวก API หรือ Library ที่จำเป็นต้องใช้เวลาเราเขียน, รัน และดีบัค Android
- Android Development Tools (ADT) : เป็น Plugin ใน Eclipse ใช้สำหรับเพิ่มความสามารถในการพัฒนาแอพ, สร้าง User Interface, ดีบัค และส่งออกไฟล์ .APK
ขั้นตอนที่ 1 : ดาวน์โหลด และติดตั้ง Java Development Kit (JDK)
1. เข้าไปดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ Oracle ได้เลยครับ และเลือกดาวน์โหลด "Java Platform (JDK) 7u17"
ขั้นตอนที่ 2 : ดาวน์โหลด และติดตั้ง Eclipse IDE
1. ดาวน์โหลด Eclipse IDE ได้โดย คลิกที่นี่ และเลือกดาวน์โหลด "Eclipse Classic" ส่วนจะ 32 bit หรือ 64 bit นั้นก็ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการที่คุณได้ลงไว้
2. หลังจากที่ดาวน์โหลดเสร็จเรียบร้อย ก็จะได้ไฟล์ .ZIP มา ให้เราแตกไฟล์ออกมาไว้ที่ไหนก็ได้ตามใจคุณ เช่น ผมแตกไฟล์ไว้ที่ D:\Eclipse
ขั้นตอนที่ 3 : ดาวน์โหลด และติดตั้ง Android SDK
1. ดาวน์โหลด Android SDK และติดตั้งตามปกติ
ขั้นตอนที่ 4 : ติดตั้ง Plugin เสริมใน Eclipse
1. เปิดโปรแกรม Eclipse ขึ้นมาก่อนเลยครับ หลังจากนั้นไปที่ Help > Install New Hardware
ขั้นตอนที่ 5 : ติดตั้ง และตั้งค่า Emulator
1. เลือกไอคอน "Android Virtual Device Manager" และคลิกที่ "New"
จบแล้ว สำหรับบทเรียนแรก "เริ่มต้นเขียน แอพพลิเคชั่น Android ต้องทำอย่างไรบ้าง" ในบทต่อไป ผมจะสอนเขียนแอพพลิเคชั่นด้วย Java แบบง่ายๆ กันครับ รับรองว่า Android นั้นเขียนสนุก และไม่ยากอย่างที่คุณคิดเลย !
ปล. รีวิวนี้เขียนมาจากประสบการณ์ของผมโดยล้วนๆ ถ้าผิดพลาดประการใด แนะนำเข้ามาได้เลยครับ
อัพเดต ! บทเรียนที่ 2 มาแล้วนะ - [Lesson 2] สร้าง Project เขียน App Android และรันแอพผ่าน Emulator
เริ่มต้นเขียน แอพพลิเคชั่น Android ต้องทำอย่างไรบ้าง [Lesson 1]
รายละเอียดรีวิว !
รีวิว - [Lesson 2] สร้าง Project เขียน App Android และรันแอพผ่าน Emulator
หมายเหตุ ถ้าใครพลาด บทเรียนที่แล้วสามารถคลิกอ่านได้ที่นี่ รีวิว - [Lesson 1] เริ่มต้นเขียน แอพพลิเคชั่น Android ต้องทำอย่างไรบ้าง ?
- Application Name : ชื่อแอพ ซึ่งจะโชว์บนสมาร์ทโฟน
- Project Name : ชื่อของ Project แอนดรอยด์
- Package Name : ชื่อแพ็คเกจของแอพเรา ที่กำลังจะพัฒนา
- Minimum Required SDK : เวอร์ชั่นต่ำสุดของอุปกรณ์แอนดรอยด์ (API) ที่เราต้องการให้รันได้ เช่น เราต้องการให้แอพเราทำงานบน Android 2.2 (Froyo) ก็เลือก API 8: Android 2.2 (Froyo)
- Target SDK : เวอร์ชั่นของ API ที่ต้องการพัฒนา
- Compile With : เวอร์ชั่นของคอมไพเลอร์ เลือกให้เหมือน Target SDK ก็ได้นะ
- Theme : ธีมของแอพที่แสดงผล ตรงนี้ไม่ส่งผลอะไร เลือกแบบไหน เราก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ภายหลัง
- Activity Name : ชื่อของคลาส (Class) หลักที่จะพัฒนาแอพ
- Layout Name : ชื่อ Layout ซึ่งจะเป็นตัวแสดงผลของแอพ
หมายเหตุ ในบทเรียนนี้ เราจะยังไม่เข้าไปแก้ไขโค้ด MainActivity.java นะครับ
- android:layout_width และ android:layout_height เป็นการกำหนด Attribute ขนาดของวัตถุ ที่นิยมใช้มีดังนี้
- match_parent >> อ้างอิงขนาดจาก Layout ด้านบน
- wrap_content >> ขนาดจะเท่าพอดีกับวัตถุ
- fill_parent >> ขนาดจะเต็มหน้าจอ คล้ายกับเปิด Windows เต็มหน้าต่าง
- android:text="@string/hello_world" >> แสดงตัวอักษร String ที่ถูกเก็บไปใน String ที่มีชื่อว่า hello_world
- app_name >> ชื่อแอพของเรา
- menu_settings >> ชื่อเมนูการตั้งค่า
- hello_world >> ข้อความที่เราต้องการจะแสดงในหน้า Layout
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ [Lesson 2] สร้าง Project เขียน App Android และรันแอพผ่าน Emulator ถ้ามีส่วนไหนที่ไม่เข้าใจ หรือสงสัยสามารถคอมเม้นท์ถามได้ด้านล่างเลยครับ และในบทต่อไปเตรียมตัวพบกับการ เขียน App Android ลงทะเบียนเบื้องต้น ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจความสัมพันธ์ของ Layout กับโค้ดในโปรแกรมได้มากยิ่งขั้น
แสดงความคิดเห็น